ลักษณะของภาชนะ ที่ร้าน “ตั้งใจชง” ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ใช้สำหรับใส่ของหวานเมนูปังเย็นชาไทย ปังเย็นโกโก้ ปังเย็นชาเขียว และปังหนาว ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับร้านค้าที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้
แต่มีจุดแตกต่างกันที่ภาชนะของ “ร้านตั้งใจชง” จะเป็นถ้วย 3 แฉก แต่ของร้านปังชาเป็นถ้วย 4 แฉก รวมทั้งที่ขาถ้วยก็แตกต่างกันด้วย โดยร้านขาถ้วยหุบเข้าใน แต่ของแบรนด์ปังชาจะกางออกนอก
ข่าวดีพรุ่งนี้น้ำมันลด โออาร์ – บางจาก ปรับเบนซินลง 30 สต. มีผล 2 ก.ยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง.
JKN ยอมจ่ายดอกเบี้ย เลือนชำระหนี้หุ้นกู้ 450 ล้าน มั่นใจแผนผ่านฉลุย วอนสื่อเลิกขยี้ข่าว
เจ้าของร้านบอกว่า ร้านตั้งใจชล เปิดมาประมาณ 6 ปี แต่หยุดไปช่วงโควิด ก่อนจะกลับมาเปิดใหม่ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยขายกาแฟ ชา เบเกอร์รี่ และของหวาน รวมถึงน้ำแข็งไส
กระทั่งวันที่ 30 เมษายน ทางร้านได้รับโนติสจากสำนักงานทนายความเจ้าของแบรนด์ “ปังชา” ในเอกสารลงวันที่ 28 เมษายน ขอให้ทางร้านยุติการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับสิทธิบัตรของผู้อื่น พร้อมกับอ้างถึงสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ และรูปถ่ายผลิตภัณฑ์ถ้วยไอศกรีม หากไม่ทำตามจะมีเรียกค่าเสียหาย 2 ล้านบาท และดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งพอเห็นเอกสารก็ตกใจมาก และหยุดใช้ถ้วยดังกล่าวทันที่ เพราะไม่แน่ใจว่าจะผิดกฎหมายหรือไม่
เจ้าของร้านบอกว่า ถ้วยดังกล่าวนั้น เธอซื้อมาจากตลาดนัดจตุจักร เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน โดยซื้อมา 1 โหล แต่พอเกิดปัญหาก็ยกเลิกใช้ไปก่อน แต่อยากให้ทางภาครัฐ และผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมาย ออกมาชี้แจง และให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ด้วย เพื่อที่ทางร้าน และผู้ประกอบการในลักษณะเดียวกันนี้ ได้มีความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน และสามารถประกอบอาชีพต่อไปได้อย่างสบายใจ จากข้อมูลของ คุณนุ๊ก ที่บอกว่าซื้อถ้วยที่ใส่ขนมหวานมาจากตลาดนัดจตุจักร เมื่อ 10 ปีที่แล้ว วันนี้ทีมข่าวพีพีทีวี ลองลงพื้นสำรวจ เพื่อตามหาถ้วยที่กำลังเป็นประเด็น
โดยทีมข่าวได้สอบถามร้านที่ขายอุปกรณ์จานชาม ของใช้สำหรับร้านอาหาร ร้านคาเฟ่แต่ไม่พบถ้วยรูปแบบดังกล่าว พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ บอกว่า ปกติแล้วถ้วยแบบนี้อาจจะต้องสั่งเป็นพิเศษ ไม่ค่อยมีวางขายทั่วไป / แต่ส่วนใหญ่ก็เห็นตรงกันว่า ถ้ายังมีให้สั่งซื้ออยู่ ใครๆ ก็น่าจะใช้ถ้วยแบบนี้ได้ ไม่น่าจะต้องทำให้เป็นคดีความกันถึงขั้นนี้
ขณะที่ในโลกโซเชียลก็ยังคงวิพากษ์วิจารณ์ ปม "ภาชนะ" และ "การจัดวาง" ปังชากันอย่างกว้างขวาง และมีการหยิบยกคลิป คลิปหนึ่งซึ่งเป็นร้านอาหารในประเทศจีน ที่มีเมนูน้ำแข็งใสภูเขาไฟ ซึ่งก็เหมือนกับปังเย็นของไทย และยังใช้ภาชนะลักษณะคล้ายกันด้วย โดยในคลิปพูดว่า วันนี้มากินน้ำแข็งใสภูเขาไฟ ที่ร้านหม้อไฟชื่อดังในเมืองฉงชิ่ง มาถึงก็เห็นพนักงานหญิงกำลังทำ เมนูน้ำแข็งใสอยู่ พวกเราสั่งสองรส คือชาไทย และ โกโก้
เริ่มจากไสน้ำแข็งเกล็ดหิมะใส่ลงไปให้พูนๆ สูงๆ จากนั้นใช้ที่ครอบมาจัดรูปทรงให้สวยงาม เริ่มวางขนมปังลงไป และราดด้วยชาไทย ใส่ไข่มุกลงไปแบบตูมๆ ราดนมข้นหวาน จากนั้นใส่ท๊อปปิ้งหลากสีลงไป
ปิดท้ายด้วยวิปครีมนมสดลงไป ว๊าวๆๆๆ นี่คือความสุขของหน้าร้อนจริงๆ ว่ามั้ย ? จากคลิปนี้ก็มีคนตั้งข้อสังเกตว่า "ร้านดัง" จะต้องยื่นโนติส และเรียกค่าเสียหายจากร้านค้าในจีนหรือไม่ เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทางเจ้าของร้านที่ถูกยื่นโนติส กับทางคุณแก้ม เจ้าของร้านลูกไก่ทอง ได้มาพูดคุยกันใน “รายการโหนกระแส” ซึ่งทาง คุณแก้ม เจ้าของร้านลูกไก่ทอง ได้ร่ำไห้ และยกมือไหว้ขอโทษ ผู้เสียหายทั้ง 3 ร้าน พร้อมเปิดใจว่า ไม่ได้ต้องการทำร้ายคนรวย หรือ คนจน อยากสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน และให้คุณค่ากับการออกแบบเครื่องหมายการค้า เชื่อมั่นในแบรนด์ที่มาจากภูมิปัญญาที่คนไทยหลายๆคนมองข้าม และหลังจากนี้ก็ให้ใช้ถ้วยดังกล่าวได้เลย โดยเฉพาะคนไทย ส่วนคำว่าปังชา ทุกคนสามารถใช้ได้ทั้งภาษาไทย และอังกฤษ
